หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568

Chronology of Geographical Association of Thailand

 สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย

Chronology of Geographical Association of Thailand


สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ พ.อ.(พิเศษ) พูนพล อาสนจินดา หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับอนุญาตจากกรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ให้จัดตั้งสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๒๐ และจดทะเบียนสมาคมฯ กับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เลขที่ จ.๑๑๑ ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ มีที่ทำการสมาคมแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ ณ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่


ท่ามกลางสถานการณ์ที่โลกต้องเผชิญกับสงครามเย็นอย่างต่อเนื่อง ซ้ำเติมด้วยวิกฤติน้ำมันครั้งใหญ่ ทำให้มีความจำเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่และพื้นที่ ที่สามารถเข้าถึงภูมิภาคต่างๆ ของประเทศและของโลกได้อย่างเข้าใจ เพื่อให้ประเทศดำรงอยู่ได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีและพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าตามกรอบของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การตั้งก่อตั้งสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย จึงกำหนดให้มีวัตถุประสงค์สำคัญ ๔ ประการ คือ ๑) เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านภูมิศาสตร์อย่างกว้างขวางแก่ประชาชนชาวไทย ๒) เพื่อส่งเสริมการศึกษา การค้นคว้า และการวิจัย ในวิชาภูมิศาสตร์ทุกสาขา ๓) เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้วิชาภูมิศาสตร์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และ ๔) เพื่อส่งเสริมวิชาชีพทางด้านภูมิศาสตร์ทุกสาขา


ภายใต้วิกฤติน้ำมันทำให้เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก นโยบายการพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าและการส่งเสริมการผลิตสินค้าส่งออก จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พ.อ.(พิเศษ) พูนพล อาสนะจินดา นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ท่านแรก ได้แสดงภาวะนำและสนับสนุนให้อาจารย์สอนวิชาภูมิศาสตร์ในสถาบันหลัก ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ต่างผลิตตำราเรียนวิชาภูมิศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาเพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาและวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนพัฒนาประเทศ


ขณะเดียวกันนั้น สงครามเย็นสร้างความหวาดระแวงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ที่ล้วนแล้วแต่มีระบอบการปกครองแบบขั้วตรงข้าม ประกอบกับประสบการณ์ที่ประเทศเสียเปรียบมหาอำนาจผู้ล่าอาณานิคมจากตะวันตก ทำให้ภาควิชาภูมิศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แบะมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พัฒนาระบบการเรียนรู้ และทำงานวิจัยเกี่ยวกับการสร้างแผนที่หลากหลายรูปแบบ โดยได้รับการสนับสนุนความรู้ ทักษะ และการฝึกประสบการณ์จากกรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย คนแรก คือ ศาสตราจารย์ พ.อ.(พิเศษ) พูลพล อาสนจินดา อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๒๒ เป็นบุคคลสำคัญในการดำเนินการขับเคลื่อนดำเนินการ


ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ประเสริฐ วิทยารัฐ ดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาภูมิศาสตร์คนแรกของประเทศไทย อาจารย์ประจำสาขาวิชาภูมิศาสตร์ ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เข้าดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๒ ช่วงปี พ.ศ.๒๕๒๒-๒๕๒๕ ที่ทำการให้ทสำนักงานของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ย้ายไปตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กรุงเทพมหานคร 


สมาคมภูมิศาสตร์ฯ ได้ทบทวนระบบการเรียนรู้วิชาภูมิศาสตร์ในระดับการศึกษาพื้นฐาน ที่เป็นระบบที่ใหญ่มากๆ เพราะมีผู้เรียนและผู้สอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๕ จำนวนมาก ครอบคลุมเยาวชนทั้งประเทศ แล้วพบว่า “ประเทศไทยเราสอนวิชาภูมิศาสตร์กันตามแบบอังกฤษ ที่เป็นประเทศเจ้าอาณานิคม คือ สอนให้รู้จักประเทศอื่นๆ ในโลกก่อน“ ขณะที่ระบบการศึกษาของอเมริกัน กลับตรงกันข้าม เป็นการเรียนรู้ระบบกายภาพและสังคมเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ


สมาคมภูมิศาสตร์ฯ จึงผลักดันให้มีปรับปรุงหลักสูตรการรู้วิชาภูมิศาสตร์เพื่อให้เกิดเรียนรู้เรื่องของตัวเองมากขึ้น ทั้งในเชิงการศึกษาระบบทางกายภาพของประเทศไทย และระบบสังคมเศรษฐกิจ/วัฒนธรรมของภูมิภาคทั้ง ๖ ภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึงการเปรียบเทียบและเชื่อมโยงบทเรียนที่คล้ายคลึง/แตกต่างกันกันนานาประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้ส่งเสริมให้มีการผลิตตำราเรียนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่กล่าวมาอย่างกว้างขวาง ร่วมกับกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักพิมพ์เอกชนที่เป็นผู้พิมพ์เผยแพร่ตำราเรียนออกไปยังผู้เรียนทั่วประเทศ


ศาสตราจารย์กิตติคุณ ไพฑูรย์ พงศะบุตร อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกให้เข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๓ โดยมีวาระการบริหารจัดการกิจการของสมาคมฯ ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๕-๒๕๒๗ โดยสำนักงานของสมาคมฯ ย้ายไปตั้งอยู่ที่ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร


ช่วงที่ประเทศต้องการการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งการท่องเที่ยวแบบ domestic และ international tourism เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มัคคุเทศก์ที่รอบรู้ destinations & attractions ที่สำคัญ และสามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนอย่างแข็งขันของนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้จัดทำคู่มือการอบรมมัคคุเทศก์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงจัดทำเป็นภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่นด้วย นับเป็นต้นทางและแบบอย่างของการผลิตมัคคุเทศก์ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในระยะต่อมา


ศาสตราจารย์ ไพฑูรย์ พงศะบุตร เป็นราชบัณฑิตที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนให้มีการจัดทำ “อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย” มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๖ รวมถึงปรับปรุงเพิ่มเติมอีกสองครั้งทั้งที่อยู่ในตำแหน่งและไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ในปี พ.ศ.๒๕๔๕ และ ๒๕๕๗ เช่นเดียวกับ “พจนานุกรมศัพธ์ภูมิศาสตร์” ที่ราชบัณฑิตยสภา จัดทำแยกออกมาจากอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๖ โดยมีนายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ท่านนี้เป็นแม่งานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้น และสร้างความร่วมมือกับนักภูมิศาสตร์ไทยอีกหลายท่านพัฒนาและปรับปรุงจนสามารถตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ.๒๕๔๙


ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนู วัลยะเพ็ชร์ อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นักภูมิศาสตร์ที่ได้รับการศึกษาขั้นสูงจากตะวันตกร่วมสมัยกับนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยคนแรก ที่ให้ความสนใจภูมิรัฐศาสตร์อย่างจริงจัง นายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๔ ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๘-๒๕๓๐ เป็นช่วงเวลาที่ความร่วมมือระหว่างชาติอาเซียนที่ก่อตั้งเป็นสมาคมประชาชาติอาเซียนตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘ ขยับขยายให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแข็งขัน


งานวิจัยเรื่อง ”อาเซียนกับความร่วมมือทางการเมืองเพื่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: วิเคราะห์ตามแนวทางภูมิศาสตร์การเมือง“ กับหนังสือภูมิศาสตร์การเมือง ของนายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ช่วยทำให้นิสิตนักศึกษาสาขาวิชาภูมิศาสตร์และรัฐศาสตร์ เกิดความรู้ความเข้าบทบาทของประชาชนในฐานะที่เป็นพลเมืองของอาเซียนเพิ่มเติมจากตำราเรียน “ภูมิรัฐศาสตร์ไทย” ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ พ.อ.(พิเศษ) พูนพล อาสนจินดา ได้เป็นอย่างมาก โดยนำไปเป็นประเด็นประชุมวิชาการภูมิศาสตร์ประจำปี ๒๕๒๙ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และต่อเนื่องในช่วงต้นปี พ.ศ.๒๕๓๐ ที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี


รองศาสตราจารย์ วรรณศิริ เดชะคุปต์ ท่านอาจารย์ผู้ใหญ่ที่ทุกคนให้ความเคารพเป็นอย่างสูง อาจารย์เป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่ ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๕ มีวาระการบริหารงานระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๓๓ ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลมีนโยบายที่กำหนดเอาไว้ชัดเจนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ภาคการผลิตเปลี่ยนแปลงจากอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนการนำเข้าไปเป็นอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ซึ่งประสบความสำเร็จก่อให้เกิดการไหลเวียนของเงินตราจากต่างประเทศเข้ามาอย่างมหาศาล


การกระจายความเจริญครั้งใหญ่สู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ถูกเรียกขานนามว่า ”ห้าเสือเศรษฐกิจเอเชีย“ ซึ่งในเชิงนโยบายเอง ประเทศไทยก็วางเป้าหมายและดำเนินยุทธศาสตร์ที่จะให้ได้ชื่อว่าเป็น “เสือเศรษฐกิจตัวที่หก” ของเอเชียขึ้นมาให้ได้ด้วยเช่นกัน


ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ มีความต้องการผลงานการศึกษาวิจัยในสถาบันการศึกษา องค์กรกำหนดนโยบาย และองค์กรธุรกิจที่ปรึกษา ที่มีบทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเชิงพื้นที่หลากหลายด้าน ทำให้ประเทศความต้องการใช้งานบุคคลากรที่มีการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสาขาวิชาภูมิศาสตร์มากขึ้น สมาคมภูมิศาสตร์ฯ จึงมีประสานงานผ่านไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภาควิชาภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรที่แต่ละมหาวิทยาลัยมุ่งเน้น ทำให้มีผู้สนใจสมัครเข้าศึกษาเป็นจำนวนมาก


เมื่อที่ทำการสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ต้องย้ายไปที่ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน (ชื่อเดิมในสมัยนั้น ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยบูรพา) เนื่องด้วย รองศาสตราจารย์ จำเนียร สงวนพวก อาจารย์ประจำสาขาวิชาภูมิศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้นได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๖ มีวาระการบริหารงานระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๔-๒๕๓๖ ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางสังคมครั้งสำคัญของประเทศไทย


กล่าวคือ ภายหลังรัฐประหารและการต่อต้านการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร ๒๕๓๔-๒๕๓๕ ประเทศเข้าสู่ภาวะที่สามารถควบคุมอะไรหลายๆ อย่างได้แล้ว รัฐบาลและรัฐสภามีวุฒิภาวะสูง ได้ตรากฎหมายใหม่ๆ  และประกาศออกมาใช้หลายฉบับ ซึ่งที่สำคัญมากๆ และมีความเกี่ยวเนื่องกับสมาคมภูมิศาสตร์ฯ โดยตรง คือ พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิงแวดล้อมแห่งชาติ ๒๕๓๕ ที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีเอาไว้ให้กับอนาคตชน


หลักการประการหนึ่งของปฏิญญาแห่งกรุงริโอ ๒๕๓๕ ที่ระบุว่า ภาครัฐและเอกชน จะทำการสิ่งใดๆ อันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ไม่ได้ เว้นแต่จะได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสียก่อน ส่งผลให้เกิดพัฒนาการของการจัดการเรียนรู้และการศึกษาวิจัยแบบบูรณาการในสาขาวิชาภูมิศาสตร์ในสถาบันการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา


สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยมีส่วนอย่างมาก ต่อการวางรากฐานของบูรณาการดังกล่าว อย่างน้อยที่สุดในสองที่สามารถดำเนินการได้ทันที คือ การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และการวิเคราะห์คุณค่าการใช้ประโยชน์ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นสารัตถะที่วิชาภูมิศาสตร์จัดการเรียนรู้กันมุกหลักสูตรอยู่ รากฐานที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน คือ เงื่อนไขการวิเคราะห์ที่จะต้องดำเนินการให้สอดรับกับโครงการที่ภาครัฐ/เอกชนจะดำเนินการ


ความสำคัญต่อสังคมไทยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำให้สาขาวิชาภูมิศาสตร์มีสถานะโดดเด่นมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ยิ่งเมื่อสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยได้อาจารย์ ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันยกฐานะเป็นสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. มาดำรงนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๗ มีวาระการบริหารงานระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๗-๒๕๓๙


ด้วยภารกิจหลักของ สทอภ. ที่ต้องให้บริการสารสนเทศเชิงพื้นที่แบบ near realtime & realtime information ทำให้มีศักยภาพสูงมากในการสร้างฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งในส่วนของทรัพยากรทางกายภาพ ทรัพยากรชีวภาพ คุณค่าการใช้ประโยชน์มนุษย์ และคุณภาะสิ่งแวดล้อม ที่เป็นเงื่อนไขที่จะต้องทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง สทอภ.ยังได้ขยายศูนย์เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศไปตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค ทั้งภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคใต้ และภาคกลาง เพื่อให้สามารถสนับสนุนข้อมูลในลักษณะดังกล่าวที่ได้จากระบบสำรวจและบันทึกของเซนเซอร์บนดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกทั้งของพันธมิตรจากยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย และของ สทอภ.เอง


วิกฤตต้มยำกุ้ง” หรือ วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย เป็นช่วงเวลาที่การเงินการคลังของหลายประเทศในเอเชียตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถควบคุมให้เป็นไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศของตนเองได้ ซึ่งส่งผลกระทบหลายประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๐ ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลก ประเทศไทยเองก็มีการประกาศลดค่าเงินบาทลงมากกว่าหนึ่งเท่าตัว ซึ่งถือได้ว่ามากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศพังครืนลงทั้งระบบ อุตสาหกรรมส่งออกที่เป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศหยุดชะงักทำให้หนี้เอกชนพอกพูนถึงขั้นล้มละลาย


วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ส่งผลทำให้ธุรกิจเอกชน ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมก่อสร้างและผลิตวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ธนาคาร ธุรกิจการพิมพ์โฆษณา หลายแห่งต้องปิดกิจการ หลายแห่งมีหนี้สินท่วมตัว พนักงานจำนวนมากถูกปลดออกและถูกกดดันให้ลาออก


ความพยายามของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพยุงค่าเงินบาท ทำให้เงินสำรองเงินตราต่างประเทศหมดคลังจนต้องขอกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศจำนวน ๑๗,๒๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของประเทศ และรัฐบาลจำต้องยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำหนดขึ้น เช่น งบประมาณแผ่นดินจะต้องตั้งเกินดุลร้อยละ ๑ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ ๗ เป็นร้อยละ ๑๐ และที่สำคัญจะต้องดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่มีอยู่


การประชุมวิชาการประจำปีของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยที่จังหวัดน่าน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ ในช่วงเวลาสำคัญหลังจากที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นวลศิริ วงศ์ทางสวัสดิ์ ได้รับเลือกและเข้าดำรงตำแหน่งนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๘ มีวาระบริหารงานอยู่ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๐-๒๕๔๒ เป็นห้วงเวลาที่สำคัญมาก ที่สมาคมภูมิศาสตร์ฯ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองผ่านงานวิจัยและคลังความรู้จากหลายๆ ฝ่ายเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศที่เคยเบ่งบูมแต่ต้องกลับต้องเผชิญวิกฤตการเงินอย่างหนัก ซึ่งการค้าบริเวณชายแดนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยสร้างการแลกเปลี่ยนและไหลเวียนของกระแสการเงินการคลังได้


ภายในภาควิชาภูมิศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็นฟันเฟืองการทำงานของสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ณ ขณะนั้น ถือได้ว่ามีบุคลากรที่มีคุณวุฒิทางด้านภูมิศาสตร์ประชากร นิเวศวิทยามนุษย์ ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ อยู่หลายคน แต่ละคนทำงานวิจัยและผลิตผลงานเป็นบทความวิชาการ เอกสาร หนังสือ และตำรา ที่จะช่วยทำให้สังคมได้เรียนรู้ เข้าใจ และมีทางออก สามารถฝ่าฟันพากันผ่านสถานการณ์ที่ยุ่งยากมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งของประเทศ


หลังเหตุการณ์เวิร์ลด์เทรดเซนเตอร์ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ ทำให้เกิดวาทกรรม ”ลัทธิก่อการร้าย - terrorism “ ที่มหาอำนาจผลิตขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการรักษาสถานะผู้นำขั้วเดียวบนโลกใบนี้ การวิจัยในสาขาวิชาภูมิศาสตร์ในยุโรปและอเมริกาต่างมุ่งเน้นไปที่การติดตามตรวจสอบฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม ประกอบกับสถานการณ์ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยของเราทวีความขัดแย้งมากกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา


ในห้วงเวลาที่ว่านี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กวี วรกวิน จากภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ก็ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๙ ดำรงตำแหน่งยาวนานสองวาระรวด ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๓-๒๕๔๙ ศาสตราจารย์ ดร.ครองชัย หัตถา อุปนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นสะพานสร้างความปรองดองระหว่างฝ่ายต่างที่มีความขัดแย้งอย่างหนักถึงขั้นเผชิญหน้ากันด้วยอาวุธสงคราม โดยใช้กระบวนการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจต่อข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ ที่แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้สถานการณ์คลี่คลายสู่ปรกติได้ทั้งหมด แต่ก็มีส่วนทำให้สังคมไทยได้เห็นว่า ยังมีนักภูมิศาสตร์ด้วยอีกส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มก้อนของสติปัญญา ที่มีความความรู้และมีความจริงใจในการช่วยเหลือประเทศชาติ


หนึ่งปีก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กวี วรกวิน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๘ เกิดปรากฏการณ์ใหญ่ที่ชั่วชีวิตคนไทยไม่เคยพบมาก่อน กล่าวคือ แผ่นเปลือกโลกพม่าแแผ่นตกตัวออกจากแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเมกะทรัสต์ใต้น้ำ ขนาด ๙.๑ แมกนิจูด ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดสึนามิอันดามันที่ส่งผ่านคลื่นสูง ๓๐ เมตรเข้าถล่มชายฝั่งอย่างถ้วนทั่วมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยรอบกว่า ๒.๒ แสนราย


ภารกิจในการกอบกู้ ฟื้นคืนสภาพ และเยียวยาความเสียหายทั้งพื้นที่ชายฝั่ง อสังหริมทรัพย์ และชีวิตประชาชน จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานและองค์กรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยโดยนายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ พยายามชักชวนสังคมไทยทั้งระบบให้ตระหนักถึงองค์ความรู้ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานความปลอดภัยมีอยู่ทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา อีกทั้งยังพยายามจัดระบบความรู้และหาทางนำความรู้ไปใช้อย่างเป็นระบบผ่านการขอจัดตั้งองค์กรภายใต้ชื่อว่า “สถาบันภูมิศาสตร์แห่งชาติ” ซึ่งนับเป็นความพยายามที่ควรอย่างยิ่งต่อการสานต่อให้บรรลุตามเป้าหมาย


ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๙-๒๕๕๒ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนัส สุวรรณ ที่จบการศึกษาระดับมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับ ๑ ในสาขาวิขาภูมิศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเลือกเป็นเป็นตั้งให้เป็นนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นลำดับที่ ๑๐


ด้วยการที่สถานการณ์ของโลกกำลังไหลไปกระแสโลกาภิวัฒน์อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทุกองคาพยพในประเทศไทยของเราล้วนซึมซับรับใส่เกล้าด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สมเด็จพระชนกาธิเบศฯ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระราชทานเอาไว้เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน การประชุมประจำปีของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๙ โรงแรมปางสวนแก้ว เชียงใหม่ ภายในการเตรียมการนานแรมปีของนายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ จึงน้อมนำเอาหลักการสำคัญของชาติดังกล่าวมาบูรณาการเข้ากระแสของโลก เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนประสบการณ์สามฝ่ายระหว่างนักวิชาการสาขาวิชาภูมิศาสตร์ องค์กรภาครัฐและภาคเอกชน และประชาชนผู้ยึดมั่นในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


ขณะเดียวกัน เขตการค้าเสรี อันเป็นส่วนหนึ่งในสามเสาหลักของประชาชาติอาเซียน คือ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ที่จะเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๕๓ สมาคมภูมิศาสตร์ฯ จึงให้ความสำคัญกับประเด็นของการเคลื่อนย้ายแลกเปลี่ยนเงินทุน สินค้า การบริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ พร้อมๆ กับประเด็นด้านการสร้างตลาดเดียวที่มีฐานการผลิตร่วมกัน การช่วยเหลือเพื่อลดช่องว่างของระดับการพัฒนาประเทศ และการส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาค


ครั้นวาระของนายกสมาคมฯ ลำดับที่ ๑๐ สิ้นสุดลง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิชัย ศรีคำ ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ คนที่ ๑๑ มีวาระการบริหารงานระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๕ สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย จึงได้ย้ายกลับไปตั้งอยู่ที่ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม อีกเป็นครั้งที่สอง ทำการของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ย้ายไปตั้งอยู่ที่ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม


การตื่นตัวของหลักสูตรที่ใช้จัดการเรียนรู้ระดับปริญญาบัตร ด้วยเงื่อนไขของการมีมาตรฐานที่ได้รับการรับรองและสามารถตรวจสอบได้เป็นประจักษ์ กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้แต่ละหลักสูตรจัดทำมาตรฐานกลาง เรียกันว่า “มคอ.๑ มาตราฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา” ที่เป็นกรอบที่กำหนดมาตรฐานผลการเรียนรู้ของบัณฑิตในแต่ละระดับการศึกษาของสาขาวิชาหนึ่ง ซึ่งจะกำหนดคุณลักษะของบัณฑิตในสาขาวิชา ปริญญา และองค์ความรู้ที่เป็นเนื้อหา เท่าที่จำเป็นที่หลักสูตรจะต้องมี เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ในสาขาวิชา และระดับคุณวุฒิเดียวกันจะต้องมีผลการเรียนรู้ไม่น้อยกว่าที่กำหนด 


ขณะเดียวกันมาตรฐานคุณวุฒิสาวิชาจะเปิดกว้างและส่งเสริมให้สถาบันต่างๆ มีโอกาสบรรจุเนื้อหาวิชาในส่วนที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ได้อย่างอิสระ เหมาะสม และตรงกับความต้องการหรือเอกลักษณ์ของแต่ละสถาบัน ซึ่งจะทำให้สถาบันต่างๆ สามารถพัฒนาหลักสูตรได้อย่างหลากหลาย แต่มีมาตรฐานผลการเรียนรู้ของหลักสูตรในสาขา/สาขาวิชา และระดับคุณวุฒิเดียวกันที่เทียบเคียงกันได้


แม้ว่าไม่ได้มีการบีบบังคับในแต่ละสาขาวิชาต้องจัดการตามเงื่อนไขให้ครบถ้วน แต่ว่าสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิชัย ศรีคำ เล็งเห็นความสำคัญต่อเรื่องนี้ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสาขาวิชาภูมิศาสตร์และภาควิชาภูมิศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยนเรศวร ทำให้สมาคมภูมิศาสตร์ฯ ดำเนินการขับเคลื่อนการสร้างกรอบมาตรฐานคุณวุฒิสาขาวชาภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศต่อเนื่องเป็นเวลา ๒ ปี 


กระทั่งปลายปี พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ถึงกำหนดเวลาที่สมาคมภูมิศาสตร์ฯ จะต้องจัดการประชุมใหญ่ประจำปีและจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ ก็เกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพมหนานคร ปริมณฑล และพื้นที่ภาคกลาง เนื่องจากปัญหาการบริหารน้ำต้นทุนในเขื่อนใหญ่ทางภาคเหนือและน้ำฝนจากพายุไต้ฝุ่นสองลูกที่ทะลุผ่านประเทศเวียดนามและ สปป.ลาว เข้ามาผิดพลาด ทำให้สมาคมภูมิศาสตร์ฯ เป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการดำเนินการสิ่งที่ยังคั่งค้างให้บรรลุความสำเร็จได้ แม้ว่าที่ตั้งสำนักงานของสมาคมภูมิศาสตร์ฯ จะอยู่บนพื้นที่ฝั่งตะวันตกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อยกว่า แต่น้ำท่วมท่วมสูงแรมเดือน สร้างความเสียหายต่อระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นหลายอย่างมาก ทำให้ต้องเลื่อนการดำเนินการทั้งหลายออกไป


นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๒ ต่อมา คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิริพร เกรียงไกรเพชร หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยระหว่างบริหารกิจการสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๕๙ มีภารกิจสำคัญที่ดำเนินการลุล่วงหลายอย่าง ที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นการสนองพระราชดำริองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้มูลนิธิ สอวน - มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา พิจารณาหาแนวทางการเข้าร่วมการแข่งขัน iGC - International Geography Conference มูลนิธิ สอวน และสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย จึงได้รวบรวมอาจารย์ผู้สอนวิชาภูมิศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งเป็นกรรมการสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย จัดตั้งเป็นคณะทำงานพัฒนาหลักสูตรและตำราภูมิศาสตร์โอลิมปิก เพื่อใช้ในการอบรมครู อบรมนักเรียน และใช้เป็นแนวทางในการสอบคัดเลือก ตัวแทนประเทศไทยหลักสูตรครอบคลุมเนื้อหา ภูมิศาสตร์กายภาพ ภูมิศาสตร์มนุษย์ และภูมิศาสตร์เทคนิค โดยปี พ.ศ.๒๕๕๘ ได้จัดสอบคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าค่ายอบรมภูมิศาสตร์โอลิมปิกเป็นครั้งแรก และคัดเลือกนักเรียนไทยไปเข้าร่วมการแข่งขัน iGeo และได้รางวัลชนะเลิศเหรียญเงิน ๑ เหรียญ และเหรียญทองแดง ๓ เหรียญ


ต่อมาผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต้นไม้กลายเป็นหิน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ จำนวนมาก ที่เข้าร่วมประชุมวิชาการและประชุมใหญ่ประจำปี พร้อมกันในพื้นที่ย่านกลางกรุงเทพมหานคร ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๓ มีวาระการบริหารงานระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๙-๒๕๖๓ นายกสมาคมภูมิศาสตร์ฯ ได้สร้างเครือข่ายการพัฒนาอุทยานธรณีระดับนานาชาติ เป็นผลสำเร็จ ทำให้มีการขึ้นทะเบียนอุทยานธรณีโลกในประเทศไทย จำนวน ๒ แห่ง คือ อุทยานธรณีโลกสตูล และอุทยานธรณีโลกโคราช อุทยานธรณีประเทศไทย ๓ แห่ง คือ อุทยานธรณีเพชรบูรณ์ อุทยานธรณีขอนแก่น และอุทยานธรณีอุบลราชธานี และอุทยานธรณีท้องถิ่น ๔ แห่ง คือ พุหางนางนาก ต้นไม้กลายเป็นตาก ลำปาง กาฬสินธุ์ และชัยภูมิ


มีเรื่องสำคัญในช่วงเวลานี้ อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ ที่ถ้ำหลวงในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มีเด็กนักฟุตบอลและโค้ช รวม ๑๓ คน เดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำ ก่อนจะหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเวลาพลบค่ำวันนั้น โดยตลอดระยะเวลาทั้งสิ้น ๑๗ วันเต็ม ปฏิบัติการตามค้นหาและช่วยชีวิต ทุกฝ่ายทั่วโลกร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ถึงแม้ว่าสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยจะไม่ได้เข้ามาแสดงบทบาทโดยตรง แต่ก็มีสมาชิกสมาคมฯ และบุคคลในแวดวงภูมิศาสตร์ เข้ามามีบทบาทไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์เก่าภูมิศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้นว่า คุณอนุกูล สอนเอก นักภูมิศาสตร์ผู้เคยสำรวจถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มาก่อน และอาจารย์ ดร.พลภัทร เหมวรรณ ที่เป็นศูนย์กลางการสร้างแผนที่แสดงตำแหน่งที่เป็นไปได้ที่ทั้ง ๑๓ คนจะติดอยู่ภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยโคลนและน้ำ


ก่อนโลกทั้งโลกจะถูดปิดเงียบสนิท ด้วยการระบาดใหญ่ของโควิด-๑๙ รองศาสตราจารย์ พัฒนา ราชวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาภูมิศาสตร์และหัวหน้าภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกให้เข้าดำรงตำแหน่งนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย เป็นลำดับที่ ๑๔ ท่ามกลางสถานการณ์ล็อคดาวน์ทั่วโลกที่ยาวนาน การสื่อสารออนไลน์เป็นช่องทางเลือกทางเดียวที่มีประสิทธิภาพ ช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๓-๒๕๖๘ สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้คิดสร้างสรรค์โครงการ upskills ให้กับครูผู้สอนวิชาภูมิศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาผ่านการสร้างเครือข่ายออนไลน์ระหว่างโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสมาคมภูมิศาสตร์ฯ พร้อมนี้ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสวทท - สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ให้จัดทำโครงการนิทรรศการแผนที่สุนทรียภาพแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ ต่อเนื่องกัน โดยมีการ upskills & reskills ด้วยการจัดการเรียนรูและฝึกทักษะการสร้าง aesthetic map ให้ครูสอนภูมิศาสตร์และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาทั่วประเทส และนำผลงานแผนที่สุนทรียภาพเข้ามาแสดงนิทรรศการและประกวดกันบนแพลตฟอร์มออนไลน์


อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก คือ การสร้างช่องทางวิชาชีพของนิสิตนักศึกษาและบุคคลที่มีทักษะและความสามารถในงานด้านภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ ปี พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๖๗ โดยสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทยร่วมมืออย่างแข็งขันกับ สทอภ - สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดทำมาตรฐานวิชาชีพ นักเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ระดับ ๕ และระดับ ๖ มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องสำคัญมากสำหรับภูมิศาสตร์มากเรื่องนี้ใน https://tpqi-net.tpqi.go.th/qualifications/5176


บ่ายวันศุกร์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๘ เป็นหนึ่งเดือนก่อนการประชุมวิชาการและงานวิจัยภูมิศาสตร์เนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปีของก่อตั้งสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ เมษายน ๒๕๖๘ ณ จังหวัดพิษณุโลก ก็เกิดปรากฏการณ์ที่ประชาขนต้องอกสั่นขวัญแขวนกันทั้งภาคเหนือและภาคกลาง เมื่อ primary waves & secondary waves จากแผ่นดินไหวขนาด ๗.๗ เมกนิจูดู มี epicenter อยู่ใกล้เมืองมัณฑะเลย์บนลอยเลื่อนสะกายแอง และมี hypercenter อยู่ลึกลงไปแค่ ๑๐ กิโลเมตรเท่านั้น


แรงสั่นสั่นเทือนจาก seismic waves ทำให้อาคารสูงรูปแบบใหม่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่กำลังก่อสร้างอยู่กลางสวนจตุจักร กรุงเทพมหานคร ถล่มลงมาอย่างราบคาบ สังคมไทยได้มีโอกาสเรียนรู้อะไรหลายอย่างมากจากปรากฎการณ์นี้ ทั้งวิทยาศาสตร์โลกว่าด้วยแผ่นดินไหว ปฐพีกลศาสตร์ว่าด้วยพื้นที่ที่มีดินอ่อนตัว วิศวกรรมโยธาธิการที่สัมพันธ์กับเหล็กและปูน วิทยาการจัดการภัยพิบัติ และการเมืองการปกครองที่ว่าด้วยความเป็นผู้นำ ลำดับการสั่งการ และการบริหารความรู้ความเข้าใจของมวลชน


ซึ่งก่อนที่จะเจ้าสู่กระบวนการเลือกตั้งนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๕ ในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๘ เวทีประชุมวิชาการและงานวิจัยภูมิศาสตร์ฯ น่าจะได้หยิบยกเอาประเด็นสำคัญๆ ของการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายภายใต้ภัยพิบัติต่างๆ อย่างที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์น้อม งามนิสัย ได้บรรจงเขียนเอาไว้ในหนังสือ “การป้องกันชีวิตจากภัยพิบัติ” ที่มีแจกสมาชิกผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ทุกคน


ทำเนียบนายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย


๑. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พ.อ.(พิเศษ) พูนพล อาสนจินดา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๒๓


๒. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ประเสริฐ วิทยารัฐ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๒ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๕๕


๓. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ไพฑูรย์ พงศะบุตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๓ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๕-๒๕๒๗


๔. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนู วัลยะเพ็ชร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๔ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๘-๒๕๓๐


๕. รองศาสตราจารย์ วรรณศิริ เดชะคุปต์         มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๕ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๑-๒๕๓๓


๖. รองศาสตราจารย์ จำเนียร สงวนพวก มหาวิทยาลัยบูรพา นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๖ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๔-๒๕๓๖


๗. อาจารย์ ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๗ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๗-๒๕๓๙


๘. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นวลศิริ วงศ์ทางสวัสดิ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๘ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๐-๒๕๔๒


๙. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กวี วรกวิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๙ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๓-๒๕๔๙


๑๐. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนัส สุวรรณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๐ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๖


๑๑. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิชัย ศรีคำ มหาวิทยาลัยศิลปากร นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๑ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๓-๒๕๕๖


๑๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิริพร เกรียงไกรเพชร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๒ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๕๙


๑๓. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประเทือง จินตสกุล มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๓ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๙-๒๕๖๓


๑๔. รองศาสตราจารย์ พัฒนา ราชวงศ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นายกสมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย ลำดับที่ ๑๔ วาระการดำรงตำแหน่ง ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๖๓-๒๕๖๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น