หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

แผนที่แอตลาส

แผนที่แอตลาส


แผนที่แอตลาส - atlas หมายถึง แผนที่ที่ทำออกมาเป็นชุด เพื่อแสดงคุณลักษณะต่างๆ ของพื้นที่หรือภูมิภาคใดๆ ด้วยการนำข้อมูลทั้ง quantitative & qualitative information มาวิเคราะห์สังเคราะห์ แล้วนำเอาพารามิเตอร์ทั้งหลายที่เป็นผลลัพธ์มาจัดหมวดหมู่แสดงร่วมกันลงในแผนที่เป็นชุด พร้อมเขียนคำอธิบายแสดงสารัตถะให้เกิดความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้จัดทำ ผู้อ่าน และผู้นำไปใช้

แผนที่แอตลาส มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมต้องเรียกว่า แอตลาส ลองมาดูกันสักหน่อย จะได้รู้เข้าใจตรงกัน
แอตลาส เป็นชื่อของเทพไททันของกรีกโบราณ เอาละ มาติดตามเรื่องราวของเทพองค์นี้กัน
เทพไททันตามความเชื่อของกรีกโบราณ เป็นเทพที่ครองภพมานานหลายพันปี เทพไททันถูกท้าทายด้วยเทพโอลิมเปียที่มีสถานะเป็นบุตรเป็นธิดา ความขัดแย้งแย่งชิงการครอบครองและปกครองจักรวาลของเทพรุ่นพ่อกับเทพรุ่นลูกถึงกับต้องทำการยุทธที่เรียกว่า ‘มหาสงคราม ไททาโนมาคี - titanomachy’ นานนับสิบปี
แล้วเทพไททัน old gen ทั้ง ๑๒ ผู้เกิดจากยูเรนัสและกาญ่า ก็ต้องพ่าย ๑๒ เทพโอลิมเปีย new gen ผู้ที่เป็นหน่อเนื้อเชื้อไขของพวกเขาเอง
ก่อนยุคของเทพไททัน จักรวาลทั้งหมด ทั้งสวรรค์ ท้องฟ้า พิภพ มหาสมุทร และเบื้องบาดาล ถูกปกครองโดย ‘ยูเรนัส’ ที่เป็นเป็นหนึ่งในเทพที่เกิดก่อนโลก - protogenoi ซึ่งมีชีวิตอมตะองค์แรกที่ถือกำเนิดขึ้น แต่ด้วยความไม่มั่นใจในตำแหน่งเจ้าสูงสุดผู้ปกครองจักรวาล คิดแต่ว่าวันหนึ่งจะมีใครมาโค่นล้มขึ้นครองบัลลังก์แทน
เหตุนี้ ยูเรนัสจึงกักขังทุกทวยเทพที่อาจเป็นภัยต่ออำนาจนั้น พระองค์จับลูกๆ ของตัวเองขัง ทั้ง ‘ไซคลอปส์’ ยักษ์ตาเดียวที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งและดุร้ายทั้งสามตน และ ‘เฮคาทอนชีเรส’ อสูรกายห้าสิบหัวร้อยมืออีกสามตน อันเป็นแก้วตาดวงใจของกาญ่าทยูเรนัสก็จับขังทั้งหมดไว้ในตรุทาร์ทารัสขุมนรกสุดลึก
‘กาญ่า’ พระราชินีของยูเรนัส และเป็นพระมารดาของไซคลอปส์และเฮคาทอนชีเรส โกรธมากที่เห็นลูกๆ ถูกพระบิดานำไปขังลืมไว้เช่นนั้น จึงต้องการแก้แค้นพระสวามี และเริ่มวางแผนกับกลุ่มลูกๆ ที่รู้จักกันในนาม ‘เทพไททัน’ กาญ่าจึงสร้างเคียวขนาดใหญ่ขึ้นมา และโน้มน้าวให้บุตรจับบิดาตอนเสียด้วยเคียว ไททันทั้งสิบสองเห็นด้วย แต่ไม่มีใครหาญกล้า มีเพียงไททันเดียวเท่านั้นที่ฮึกเหิมและเต็มใจทำสิ่งนี้ เป็นพระอนุชาคนสุดท้อง ‘โครนัส’ ที่หยิบเคียวขึ้นมาอย่างกล้าหาญ ซุ่มโจมตีพระบิดา ตัดอวัยวะเพศโยนลงทะเล แล้วโครนัสก็ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ปกครององค์ใหม่ของจักรวาลและเป็นราชาแห่งไททัน
ยูเรนัสสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล่าถอยจากเขาโอลิมปัสขึ้นไปยังสวรรค์ ความเคียดแค้นและชิงชัง ยูเรนัสทิ้งคำสาปแช่งเอาไว้ให้แก่โครนัสว่า เขาจะต้องถูกบุตรชายโค่นล้มอำนาจเฉกเช่นเดียวกัน
โครนัสเลือกเทพ ‘รีอา’ ไททันพี่สาวมาเป็นราชินี และพระองค์เองก็เกรงเช่นกันว่าคำสาปนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาสักวัน เกรงว่าบุตรของพระองค์คนใดคนหนึ่งจะเลียนแบบ ลุกขึ้นมายึดอำนาจไปจากตน แล้วก็รู้ด้วยว่าตรุทาร์ทารัสไม่ใช่ที่คุมขังที่ดีสำหรับผู้ที่จะหาญกล้าโค่นอำนาจพระองค์ ดังนั้น ทันทีที่รีอาคลอดบุตร โครนัสจึงกลืนทารกน้อยเข้าไปกักขังไว้ในพุงที่ใหญ่โตเสียทั้งหมด ครั้นพอมาถึงบุตรลำดับที่ ๖ คือ ‘ซูส’ รีอาไม่อยากให้โครนัสกลืนเข้าไปอีก จึงใช้ก้อนหินห่อผ้า หลอกโครนัสว่าเป็นบุตรที่เพิ่งคลอดใหม่ ซึ่งโครนัสก็กลืนก้อนหินก้อนนั้นเข้าไป ด้วยเข้าใจว่าเป็นบุตรตน
เมื่อ ‘ซูส’ เติบโตขึ้นมา ได้วางแผนกับเหล่านางไม้ที่แอบเลี้ยงดูพระองค์มาตั้งแต่ยังเล็ก ให้ช่วยกันปรุงยาที่มีฤทธิ์ทำให้บิดาสำรอกพี่ๆ ที่อยู่ในท้องออกมา เทพีเรอาช่วยนำยานั้นไปให้โครนัสด้วยตนเอง ขั้นตอนทั้งหมดสำเร็จลุล่วง บุตรธิดาทั้งหกรวมถึงหินก้อนนั้นถูกปล่อยออกมา
มหาเทพโครนัสผู้อ่อนเพลียหลังการสำรอกครั้งใหญ่ ถูกโอรสองค์เล็กบุกเข้ามาต่อสู้แบบไม่ทันตั้งตัว เทพไททันจึงพ่ายแพ้แก่ซูส โครนัสหลบหนีไปรวบรวมกำลังเหล่าพี่ๆ และหลานๆ ไททันทั้งหลาย เพื่อกลับมาทำสงครามกับซูสและพวก เกิดเป็นมหาสงครามระหว่างเทพโอลิมเปีย new gen กับเหล่าเทพไททันที่ถูกจัดให้เป็นพวก old gen
‘แอตลาส’ เทพเจ้าลูกผสมระหว่างเทพและยักษ์อสูร เป็นบุตรของ ‘ไออาพิทัส’ เทพแห่งสงคราม กับ ‘คลิมีน’ เทพธิดาแห่งมหาสมุทร เป็นพระอนุชาของเอพิเมเธอุส และโปรเมเธอุส เป็นนัดดาแห่ง ‘โครนัส’ แอตลาสเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพไททัน คุมไพร่พลต่อกรกับเทพ new gen ในมหาสงครามไททาโนมาคีที่มีการทำลายล้างอย่างรุนแรงนานนับสิบปี สร้างความเสียหายไปทั่วทุกหัวระแหง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อทวยเทพโอลิมเปียของซูสที่มีกาญ่าหนุนอยู่เบื้องหลัง
เทพซูสในฐานะผู้ชนะ ก็ได้ลงโทษบรรดาเหล่าเทพเจ้าผู้แพ้ ด้วยการทรมานให้ได้รับทุกขเวทนาในขุมนรกทาร์ทารัส สำหรับ ‘แอตลาส’ ที่มีฐานะเป็นแม่ทัพใหญ่ของฝ่ายเทพไททัน จึงต้องโทษทัณฑ์ที่หนักหนากว่าเทพไททันอื่น ซูสส่งให้แอตลาสไปทำหน้าที่ ‘แบกสวรรค์ไว้บนบ่า’ อย่างนั่นไปตลอดกาล
คำว่า ‘แอตลาส’ ถูกผู้คนลืมเลือนไปนานพอสมควร มารื้อฟื้นกันอีกด้วยมีนักปราชญ์สมัยใหม่ ๒ คนนำมาใช้ในแวดวงการทำแผนที่ หรือ cartography คนแรก antonio lafreri ผู้ขายภาพพิมพ์ที่ได้รวมภาพไททันสลักไว้บนหน้าชื่อเรื่องแผนที่ชุด tavole moderne di geografia de la maggior parte del mondo di diversi autori (1572) แต่ว่า lafreri ไม่ได้ใช้คำว่าแอตลาสในชื่อผลงานของเขา ส่วนผู้ที่สร้างนวัตกรรมการทำแผนที่ที่โด่งดังมากที่สุด คือ gerardus mercator นักภูมิศาสตร์ชาวเฟลมิช ที่ตั้งชื่อผลงานแผนที่ชุดของเขาว่า atlas sive cosmographicae meditationes de fabrica mundi et fabricati (1585-1595) ซึ่งการใช้คำว่า ‘แอตลาส’ เป็นการอุทิศเป็นเกียรติแก่ไททันแอตลาส ที่มีฐานะเป็นกษัตริย์แห่งมอริเตเนีย เป็นทั้งนักปรัชญา นักคณิตศาสตร์ และนักดาราศาสตร์
ในทางจิตวิทยา atlas ถูกใช้ในเชิงเปรียบเทียบเพื่ออธิบายบุคลิกภาพของบุคคลที่มีความรับผิดชอบมากเกินไปในวัยเด็ก นวนิยายดิสโทเปียทางการเมืองของ ayn rand เรื่อง atlas shrugged (1957) กล่าวถึงความเข้าใจผิดที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับ atlas ที่แบกโลกทั้งใบไว้บนหลังของเขา โดยการเปรียบเทียบชนชั้นทุนนิยมและชนชั้นทางปัญญาว่าเป็น "atlas สมัยใหม่" ซึ่งยึดถือโลกสมัยใหม่ด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาลสำหรับตัวเอง
คำว่า แอตลาส ถูกนำมาใช้กล่าวถึงกระดูกสันหลังส่วนคอชิ้นแรก (first cervical vertebra) ที่เป็นกระดูกสันหลังที่ต่อกับกะโหลกศรีษะโดยตรงลักษณะ ที่สําคัญคือจะไม่มีส่วนของบอดี้ แต่ตรงกลางจะเป็นช่องเปิดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยแนวกระดูกโค้งทั้งทางด้านข้างด้านหน้าและด้านหลังที่บริเวณผนังด้านข้างของช่องนี้ ทางด้านบนจะเป็นจุดต่อกับปุ่มท้ายทอย (atlanto-occipital joint) โดยกระดูกชิ้นนี้ต้องแบกรับน้าหนักของศีรษะไว้ทั้งหมด เหมือนกับเทพแอตลาสที่ต้องแบกเอาสวรรค์ ไว้บนบ่าตลอดเวลา
อย่างไรก็ดี การใช้คำว่า แอตลาส ตามที่ผู้คนเข้าใจกันส่วนใหญ่ ยังคงหมายถึงแผนที่ชุดดังได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ตินต้น ซึ่งในวงการแพทย์ทุกวันนี้ แผนที่มีความสำคัญทั้งในระดับแมคโครเพื่อการบริหารจัดการงานสร้างเสริมสุขภาพ และระดับไมโครเพื่อการดูและรักษาสุขภาพ ทั้งนี้ยังมีหนังสือขายดีชื่อเรื่องว่า atlas of human anatomy เป็น หนังสือภาพที่เป็นภาพวาดหรือภาพถ่ายแสดงกายวิภาคมนุษย์ในส่วนต่างๆ พร้อมคำอธิบาย ระบุชื่อและตำแหน่ง นับได้ว่าเป็นหนังสือทรงคุณค่าทางการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น