หน้าเว็บ

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

แผนที่อย่าบิดเบี้ยวเพราะเร่งรีบ

”ความเข้าใจที่อาจบิดเบี้ยวจากข้อมูลในแผนที่“

พัฒนา ราชวงศ์ อาศรมภูมิวิทยาศาสตร์

สาขาวิชาภูมิศาสตร์ มาหาวิทยาลัยนเรศวร


แผนที่เป็นงานวิทยาศาสตร์ที่ทำบนหลักการของศิลปะ ข้อมูลสารสนเทศทั้งที่วิเคราะห์/ไม่วิเคราะห์ สังเคราะห์/ไม่สังเคราะห์ ตีความ/ไม่ตีความ ถูกนำมาเสนอผ่านมุมมองและหลักคิดของผู้สร้างลงในแผนที่ด้วยสี ลายเส้น รูปแบบ ฟ้อนต์ตัวอักษร สัญลักษณ์ พื้นที่ และขอบเขตพื้นที่


แผนที่น้ำท่วมจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ ดูแล้วชวนตื่นตาตื่นใจ  ทั้งการได้เห็นพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้ รอด/ไม่รอด น้ำท่วมตรงนั้นกว้างกว่าตรงนี้ รวมถึงจินตนาการตามประสบการณ์ต่อว่า ตรงนั้นน้ำจะผ่านไปในอีกกี่วัน ตรงนี้น้ำจะตรึงอยู่อีกกี่วันกี่สัปดาห์หรือกี่เดือน


แผนที่น้ำท่วมอย่างที่เห็น หากตัดภาพเอาเฉพาะ boundary ของสุโขทัย ก็จะเห็นภาพแบบนี้ การจัดการก็จะจัดการกันตรงๆ ตรงมุมล่างด้านขวาของภาพซ้าย วิธีการ ‘ไม่ยาก‘ คือ drain น้ำไปให้พ้นๆ ให้เร็วๆ เพื่อให้ administrated territory ที่รับผิดชอบ พ้นภัยพ้นวิบาก 


แต่ความที่แผนที่เป็นเครื่องมือของนักภูมิศาสตร์ ภูมิศาสตร์ที่เป็น mother of science ภูมิศาสตร์ที่มีความเป็นบูรณาการทั้ง content & approach ดังนั้น ความเป็นจริงที่ควรเห็น มันไม่ได้จบแค่นั้น คนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างคุณบิณทร์ กะคุณนาคร รวมถึงอีกหลายๆ ภาคส่วนที่เขามีหน้าที่มีน้ำใจ เขาไม่ได้เสร็จงานแค่นั้น งานของเขายังคงลากยาวลงมาถึงรอยต่อลงมาจากมุมขวามือด้านล่างของแผนที่จังหวัดสุโขทัย ต่อไปยังจังหวัดที่ต่อเนื่องกันอย่างพิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ ดีไม่ดี ต่อลงไปถึงภาคกลาง เลยเถิดถึงกรุงเทพฯ อย่างที่ฝ่ายการเมืองเสียวสยอง เกรงจะซ้ำรอย 12-13 ปีก่อน เพราะนี่ก็ครบรอบ flood cycle พอดีเสียด้วย


ชาวชุมแสงสงคราม บางระกำ ท่านางงาม และวังอิทก เขายอมรับสภาพน้ำก้อนนี้ เขามีประสบการณ์อยู่กะน้ำต่อจากนี้ไปอีก 3 เดือน พวกเขาไม่สามารถผลักมวลน้ำก้อนใหญ่นี้ออกไปให้พ้นๆ พื้นที่ได้ เพราะรัฐจัดการและกำกับให้น้ำอยู่ตรงนี้ ผ่านนโยบายบางระกำโมเดล


ดูเหมือนคนบางระกำ คนสามง่าม คนโพธิ์ทะเล จะไม่ยอมงอมืองอเท้าจำนนต่อภาวะน้ำท่วม พวกเขาหาประโยชน์จากการหาปลาสร้างรายได้งามทีเดียว ทั้งๆ ที่ไม่เคยได้ยินวลีเด็ดที่ว่า ‘น้ำท่วมเป็นบัญชาของพระเจ้า ความเสียหายมนุษย์กำหนดขึ้นมาเอง’ ของศาสตราจารย์ ดร.กิลเบิร์ต ไวท์ บิดาแห่งการจัดการน้ำท่วม แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก มาก่อน


น่าเสียดาย ‘สุโขทัย‘ มองน้ำท่วมเป็นปัญหา ทั้งๆ ที่สุโขทัยเป็นพื้นที่เดียวในประเทศไทย ที่รัฐไทยออกแบบให้ใช้น้ำใต้ดินเพื่อการเกษตร แล้วน้ำใต้ดินที่สุโขทัยก็ไม่พอใช้ซ่ะด้วย รัฐต้องหาทางเติมน้ำลงไปใต้ดิน ซึ่งนอกจากจะเสียงบมหาศาลแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเคมีเกษตรลงสู่ชั้นน้ำใต้ดิน


พื้นที่ส่วนบนของสุโขทัย ที่ทำบายพาสน้ำข้ามลุ่ม จากแม่น้ำยมไปลงแม่น้ำน่าน ทั้งด้วยคลองสายใหม่และแม่น้ำยมสายเก่า นั่นแหละ พื้นที่ตรงนั้น รัฐลงทุนระบบสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาให้คนสวรรคโลก คนย่านยาว คนคลองกระจง คนคลองมะพลับ กว่า 8 หมื่นไร่ เสียดายที่น้ำมาแต่ละปี ผันให้มันผ่านพื้นที่ไปให้พ้นๆ ซ่ะงั้น


แต่กับพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ที่นี่เมื่อผ่านพ้นไปถึงหน้าแล้ง ชาวนาชาวไร่ สูบน้ำใต้ดินขึ้นมา ทำนา ทำสวนผัก ทำไร่อ้อย สบายๆ เป็นการชดเชยความเสียหายที่ไร่นาเสียหายจากการจมอยู่ใต้น้ำกว่า 3 เดือน


งานสร้างแผนที่ แม้ว่าทุกวันนี้ speed จะมีความสำคัญมากๆ เรียกว่า ’ใครเร็วคนนั้นเด่น‘ แต่บนพื้นฐานที่ว่า การสร้างแผนที่ต้องอาศัยทั้ง art & sciences มันก็ควรมาให้ครบทั้งศาสตร์ทั้งศิลป์ เท่านั้นยังไม่พอ intellectual ที่ซุกซ่อนอยู่ใน spatial information คนสร้างแผนที่และคนใช้แผนที่ก็ควรที่จะคลี่มันออกมาให้ได้ใช้ประโยชน์กันบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น